คำคมภาษาอังกฤษสำหรับนักธุรกิจในช่วงสถานการณ์โควิด-19

คำคมภาษาอังกฤษสำหรับนักธุรกิจในช่วงสถานการณ์โควิด-19

ช่วงสถานการณ์โควิด-19 ธุรกิจจะมีการเข้าถึงลูกค้าในแบบที่เป็นการทำงานเชิงรุกมากยิ่งขึ้น และต้องอยู่บนมาตรฐานความปลอดภัยเพื่อห่างไกลเชื้อไวรัสและสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าด้วย ในสถานการณ์เช่นนี้ กำลังใจจึงเป็นสิ่งสำคัญ ด้วยเหตุนี้ เราจึงมีคำคมภาษาอังกฤษพร้อมแปลความหมายจะได้เป็นแรงบันดาลใจสำหรับนักธุรกิจไม่มากก็น้อย ดังต่อไปนี้

1.There’s sunshine behind that rain.

คำคมนี้แปลว่า ภายหลังที่ฝนตกยังมีแสงอาทิตย์ส่องแสง สื่อความหมายถึงอย่าเพิ่งสิ้นความหวังในปัจจุบัน เพราะเมื่อสถานการณ์ผ่านพ้นไปก็จะมีสิ่งดี ๆ รออยู่เสมอ เหมือนกับสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในขณะนี้ ที่ธุรกิจหลายภาคส่วนต่างได้รับผลกระทบ แต่ถ้ารับมือและแก้ปัญหาได้ เมื่อเวลาผ่านไปสถานการณ์จะค่อย ๆ ดีขึ้นเอง และจะเป็นโอกาสที่ทำให้ธุรกิจกลับมาแข็งแกร่งได้ยิ่งกว่าเดิม

2.There’s good times behind that pain.

คำคมนี้แปลว่า มีเวลาที่ดีภายหลังจากการเจ็บปวด บ่งบอกว่า วิกฤติโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทำให้นักธุรกิจต่างได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อย เช่น ธุรกิจโรงแรม สายการบิน เนื่องจากลูกค้าที่เป็นเป้าหมายเดิมไม่สามารถจะใช้บริการได้ในขณะนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ก็สามารถปรับกลุ่มเป้าหมายใหม่ ด้วยการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์ เช่น ถ้าเป็นธุรกิจโรงแรมก็ต้องปรับเปลี่ยนแผนมาต้อนรับลูกค้าคนไทย หรือนโยบายการตลาดจากห้องพักรายเดือน ก็อาจจะเปลี่ยนเป็นรายวัน หรือมีการเพิ่มโปรโมชั่นลดราคา แถมมื้ออาหารฟรี เป็นต้น การปรับตัวเมื่อเกิดผลกระทบนี้จะเป็นเหมือนภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง ทำให้หลังจากผ่านวิกฤติไปได้แล้ว ก็มีโอกาสสร้างธุรกิจได้ดีกว่าเดิม เช่น มองเห็นลู่ทางทำการตลาด รวมถึงวิธีป้องกันความเสี่ยง หรือมีแผนสำรองเพื่อรับมือวิกฤตการณ์ได้ดีกว่าเดิม

3.Pray and I can see a better day.

คำคมนี้แปลว่า ภาวนาและสามารถมองเห็นวันที่ดีกว่าเดิม ภาวนาในที่นี้หมายถึงการคิดบวกและมีความเชื่อมั่น ลองคิดดูว่าถ้าผู้ประกอบการจิตตก ท้อแท้ เหตุการณ์คงยิ่งเลวร้ายลงไปอีก แต่ถ้าเชื่อมั่นในพลังของตัวเอง ของลูกน้องหรือของทีม แล้วทุกคนมาตั้งความหวังและฟันฝ่าวิกฤติไปด้วยกัน ก็ต้องมีวันที่ดีกว่าเดิมแน่นอน ดังนั้นจะต้องช่วยกันกระตุ้นให้เกิดความหวังและพลังใจ คิดในสิ่งที่ดี มองโลกในแง่บวก แล้วจะผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้แน่นอน

3 คำคมดังกล่าวข้างต้น เราหวังว่านักธุรกิจ ผู้ประกอบการ และคนทำงานทุกคน จะได้มีแรงบันดาลใจในการปรับเปลี่ยนขั้นตอนในการเข้าถึงลูกค้าเพื่อให้ลูกค้าเชื่อใจและมองเห็นความปลอดภัยมากขึ้น เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันนี้ ลูกค้าค่อนข้างกลัวและขาดความเชื่อมั่น ดังนั้น การร่วมด้วยช่วยกันในภาวะวิกฤติด้วยการคิดใหม่และทำใหม่ นึกถึงส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว เช่น ธุรกิจสายการบินอนุญาตให้คืนตั๋ว ธุรกิจโรงแรมมีการขยายเวลาการเข้าพัก ธุรกิจการจัดอีเว้นท์ต้องเลื่อนการจัดงานออกไปเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการรวมตัวกัน ป้องกันความเสี่ยงต่อการระบาดเชื้อไวรัส อีกทั้งมองหาหนทางหารายได้ด้วยวิธีอื่น ๆ เพิ่มเติมหรือทดแทน ก็จะสามารถประคองกันให้พ้นสถานการณ์นี้ไปได้