ทุกคนนั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะเจอปัญหาและอุปสรรคที่เข้ามาในชีวิต ปัญหามากบ้างน้อยมากก็สุดแล้วแต่การใช้ชีวิตของแต่ละคน สิ่งสำคัญที่สุดเลยก็คือคุณจะต้องมี “ความแข็งแรงทางจิตใจ” ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นภูมิคุ้มกันที่ทำให้เราสามารถต่อสู้กับปัญหาต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตได้ทั้งหมด
“ฟ้าหลังฝนย่อมดีเสมอ” หากเมฆครึ้มก่อตัว เกิดลมพายุพัดแรง เสียงฟ้าร้องฟ้าผ่า ในที่สุดก็เกิดเป็นฝนตกกระหน่ำลงมา แม้จะเป็นแบบนั้นมันก็ต้องมีวันหยุดลง แล้วก็เผยให้เห็นท้องฟ้าที่สดใสดวงอาทิตย์สาดส่องลงมาสวยงาม ซึ่งเปรียบได้กับปัญหาต่าง ๆ ที่เข้ามาในชีวิตมันไม่ได้อยู่กับเราตลอดไปหรอก ขอเพียงแค่เราคิดในทางบวกเข้าไว้ หาวิธีแก้มันโดยใช้สติปัญญาเป็นหลัก แล้วสักวันหนึ่งปัญหานั้นมันก็จะแก้ไขได้หรือเบาบางลงไปเอง
หากคุณมีอาการที่ท้อแท้ สิ้นหวัง รู้สึกว่าตัวเองนั้นทำอะไรก็ล้มเหลว สุดท้ายไม่มีกะจิตกะใจในการที่จะทำงานอีกต่อไปได้แต่นอนคิดถึงแต่อดีตที่ผิดพลาดของตัวเอง จมปลักกับความผิดพลาดนั้น
เอาละ! ให้คุณคิดใหม่ ให้ถือเสียว่าความผิดพลาดนั้นเป็น “บทเรียนในชีวิต ราคาแพง” ที่หาซื้อไม่ได้ มีคำคมหนึ่งที่กล่าวไว้ว่า “ความล้มเหลวและผิดพลาดเป็นครูที่ดี” ซึ่งหมายถึงว่า หากเราทำผิดพลาดไปสิ่งนั้นจะสอนเราไม่ให้ไปทำผิดซ้ำสองอีก ทำให้เราได้เรียนรู้จากมันและนำสิ่งผิดนั้นไปปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น
คนที่คิดบวกอยู่ตลอดเวลาเขาจะมองทุกปัญหาเป็นโอกาสอยู่เสมอ เขาพร้อมเตรียมตัวอยู่ตลอดเวลาและมองว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วที่จะต้องพบเจอมัน ซึ่งต่างจากคนที่คิดลบ แม้เรื่องเล็ก ๆ ปัญหาเล็กนิดเดียวก็สามารถที่จะทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงมืดบอดในความคิด มองไปทางไหนก็จะเจอแต่ทางตันไม่สามารถหาทางออกให้แก่ชีวิตของตนเองได้
ย่อมดีว่าหากคุณฝึกคิดบวกกับทุกเรื่องที่มันเข้ามาในชีวิตคุณ พอปัญหาเข้ามาในชีวิตปุ๊บ ให้คุณลองวิเคราะห์ดูสิว่าเราได้ประโยชน์จากสิ่งนั้นไหม พอเราแก้ปัญหานี้ได้ผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร สิ่งหนึ่งที่คุณจะได้แน่ ๆ เลยก็คือ “การได้ฝึกใจตนเอง” เมื่อเราได้ฝึกใจบ่อย ๆ ก็จะทำให้ใจเราแข็งแรงมากกว่าคนอื่น สามารถที่จะต่อสู้กับอุปสรรคที่เข้ามาในชีวิตได้มากกว่าคนอื่น จนในที่สุดแล้วทุกอุปสรรคและปัญหาก็จะพ่ายแพ้เราไปเอง