คำคมให้กำลังใจ

คติประจำใจที่นำเสนอบทเรียนเกี่ยวกับการใช้ชีวิต

โอบกอดการเดินทาง

“ชีวิตคือการเดินทางไม่ใช่จุดหมายปลายทาง.” – ราล์ฟ วัลโด เอเมอร์สัน (คำขวัญนี้เตือนให้คุณเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ระหว่างทาง)

ใช้ประโยชน์สูงสุดจากมัน

“จุดประสงค์ของชีวิตคือการใช้ชีวิต ลิ้มรสประสบการณ์ให้มากที่สุด เอื้อมมือออกไปอย่างกระตือรือร้นและปราศจากความกลัวต่อประสบการณ์ที่ใหม่และสมบูรณ์ยิ่งขึ้น” – เอลีนอร์ รูสเวลต์ (คำขวัญนี้สนับสนุนให้คุณเปิดใจรับประสบการณ์ใหม่และใช้ชีวิตอย่างเต็มที่)

เรียนรู้จากความพ่ายแพ้

“ความรุ่งโรจน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการมีชีวิตอยู่ไม่ใช่การไม่เคยล้ม แต่อยู่ที่การเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่เราล้ม” – เนลสัน แมนเดลา. (คำขวัญนี้เน้นถึงความยืดหยุ่นและความสำคัญของการลุกขึ้นหลังจากความท้าทาย)

ทำตามเส้นทางของคุณเอง

“เป็นตัวของตัวเอง คนอื่นถูกยึดไปแล้ว” – ออสการ์ ไวลด์. (คำขวัญนี้เตือนให้คุณยอมรับความเป็นตัวของตัวเองและใช้ชีวิตอย่างแท้จริง)

ทิ้งผลกระทบเชิงบวก

“เป็นการเปลี่ยนแปลงที่คุณอยากเห็นในโลกนี้” – มหาตมะคานธี. (คำขวัญนี้สนับสนุนให้คุณดำเนินการและมีส่วนร่วมในการทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น)

ค้นหาความสุขจากสิ่งเรียบง่าย

“เพลิดเพลินกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ สักวันหนึ่งคุณอาจมองย้อนกลับไปและตระหนักว่าสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ยิ่งใหญ่” – โรเบิร์ต โบรต์. (คำขวัญนี้เตือนให้คุณชื่นชมช่วงเวลาแห่งความสุขทุกวัน)

คำบรรยายเพื่อจุดประกายจิตวิญญาณของคุณ

แง่บวกทั่วไป:

-พระอาทิตย์ขึ้นหลังพายุ ทุกความท้าทายสิ้นสุดลง และวันใหม่ก็เริ่มต้นขึ้น ลุกขึ้นและทักทายมันด้วยแขนที่เปิดกว้าง

-ความรู้สึกดีๆ เท่านั้น  เลือกความสุข เลือกความหวัง เลือกสู้วันต่อไป พลังบวกของคุณคือพลังพิเศษของคุณ

-ค้นหาประกายไฟในตัว มีไฟในตัวคุณ รอการจุดประกายอีกครั้ง อย่าปล่อยให้มันจางหายไป โอบกอดความแข็งแกร่งภายในของคุณ

-เชื่อในปีกของคุณ แม้แต่นกที่ตัวเล็กที่สุดก็บินได้สูง สยายปีกของคุณและเชื่อในความสามารถของคุณที่จะบรรลุความฝันของคุณ

-คุณมีความสามารถ จดจำพรสวรรค์ของคุณ ความยืดหยุ่นของคุณ และคุณค่าของคุณ คุณมีทุกสิ่งที่คุณต้องการเพื่อเอาชนะทุกสิ่ง

แรงจูงใจเฉพาะ:

-รู้สึกติดขัด? ก้าวหนึ่งก้าวใด ๆ แล้วเส้นทางก็จะเปิดเผยตัวเอง ความก้าวหน้า ไม่ใช่ความสมบูรณ์แบบคือกุญแจสำคัญ

-เผชิญกับความพ่ายแพ้? พวกมันไม่ใช่กำแพง แค่เป็นทางอ้อม ค้นหาหนทางใหม่ๆ และก้าวไปข้างหน้าต่อไป

-ต้องการการสนับสนุนหรือไม่? ล้อมรอบตัวเองด้วยคนคิดบวกที่เชื่อในตัวคุณ พลังงานของพวกเขาจะยกระดับตัวคุณเอง 

-รู้สึกหนักใจใช่ไหม? แบ่งเป้าหมายใหญ่ออกเป็นขั้นตอนเล็กๆ ชัยชนะแต่ละครั้ง ไม่ว่าจะเล็กน้อยแค่ไหน ก็คือการเฉลิมฉลอง

-สูญเสียประกายไฟของคุณ? ค้นพบความหลงใหลของคุณอีกครั้ง ทำสิ่งที่ทำให้คุณรู้สึกมีชีวิตชีวา แล้วพลังของคุณจะกลับมาตามธรรมชาติ

คำพูดเพื่อแรงบันดาลใจ:

-“สิ่งที่ดีและสวยงามที่สุดในโลกไม่สามารถมองเห็นหรือสัมผัสได้ แต่ต้องสัมผัสได้ด้วยหัวใจ” – เฮเลน เคลเลอร์

-“ความแตกต่างระหว่างความธรรมดาและความพิเศษนั้นพิเศษเพียงเล็กน้อย” – จิมมี่ จอห์นสัน

-“ล้มเจ็ดครั้งแล้วลุกขึ้นยืนแปดครั้ง” – สุภาษิตญี่ปุ่น

-“คุณไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่ในการเริ่มต้น แต่คุณต้องเริ่มต้นเพื่อที่จะยิ่งใหญ่” – ซิก ซิกลาร์

-“ความกล้าหาญไม่ได้คำรามเสมอไป บางครั้งความกล้าหาญก็เป็นเสียงเงียบ ๆ ในตอนท้ายของวันโดยพูดว่า ‘ฉันจะลองอีกครั้งพรุ่งนี้'” – Mary Anne Radmacher

คำคมคือประโยคหรือวลีสั้นๆ ที่แสดงถึงความเชื่อหรือจุดประสงค์ หรือแรงจูงใจหรือความตั้งใจทั่วไปของบุคคล ครอบครัว กลุ่มสังคม หรือองค์กร ตัวอย่างเช่น

“อย่ายอมแพ้” คำขวัญนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับความเพียรและความมุ่งมั่น มันเตือนเราว่าเราไม่ควรละทิ้งความฝันไม่ว่าเรื่องจะดูยากแค่ไหนก็ตาม

“ใช้ชีวิตในแต่ละวันให้เต็มที่” คำขวัญนี้เป็นเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์สูงสุดจากทุกวัน มันกระตุ้นให้เราสนุกกับชีวิตและชื่นชมสิ่งเล็กๆ น้อยๆ

“มีน้ำใจต่อผู้อื่น” คำขวัญนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับความเห็นอกเห็นใจและการเอาใจใส่ มันเตือนเราว่าเราควรปฏิบัติต่อผู้อื่นในแบบที่เราอยากให้ได้รับ

“ทำตามความฝันของคุณ” คำขวัญนี้เกี่ยวกับการไล่ตามเป้าหมายของคุณ มันสนับสนุนให้เราไม่ยอมแพ้ต่อความฝันของเราไม่ว่ามันจะเล็กหรือใหญ่ก็ตาม

“เป็นการเปลี่ยนแปลงที่คุณอยากเห็นในโลกนี้” คำขวัญนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับการสร้างความแตกต่าง มันสนับสนุนให้เราใช้ความสามารถและความสามารถของเราเพื่อทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้น

คำพูดเหล่านี้เสนอมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับความหมายของการมีศีลธรรม บางคนมุ่งเน้นไปที่ความสำคัญของความรับผิดชอบส่วนบุคคล ในขณะที่บางคนเน้นถึงความจำเป็นที่ต้องมีความเห็นอกเห็นใจและความเห็นอกเห็นใจ ท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่ถือว่าเป็นศีลธรรมอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลและบริบท อย่างไรก็ตาม คำพูดเหล่านี้สามารถช่วยให้เราคิดถึงความหมายของการใช้ชีวิตอย่างมีศีลธรรม และตัดสินใจเลือกที่สอดคล้องกับค่านิยมของเรา ดั่งคำคมที่บุคคลเหล่านี้ได้กล่าวเอาไว้

“ศีลธรรมเป็นเพียงทัศนคติที่เรารับต่อผู้คนที่เราไม่ชอบเป็นการส่วนตัว” – ออสการ์ ไวลด์

“มนุษย์ทำในสิ่งที่เขาต้องทำ แม้จะมีผลตามมาส่วนตัว แม้จะมีอุปสรรค อันตราย และความกดดันก็ตาม และนั่นคือพื้นฐานของศีลธรรมของมนุษย์ทั้งหมด” – อัลเบิร์ต กามู

“ความเมตตาเป็นพื้นฐานของศีลธรรม” – อัลเบิร์ต ชไวเซอร์

“อย่ามีศีลธรรมมากเกินไป คุณอาจหลอกตัวเองจากชีวิตมากมาย ดังนั้น ตั้งเป้าหมายเหนือศีลธรรม อย่าเป็นคนดีเพียงอย่างเดียว จงดีต่อบางสิ่งบางอย่าง” – เฮนรี่ เดวิด ธอโร

“ความยิ่งใหญ่ของประเทศและความก้าวหน้าทางศีลธรรมสามารถตัดสินได้จากการปฏิบัติต่อสัตว์ของประเทศนั้น” – มหาตมะคานธี

เราหวังว่าคำพูดเหล่านี้เป็นแรงบันดาลใจให้คุณคิดถึงเข็มทิศทางศีลธรรมของคุณเองและใช้ชีวิตที่ซื่อสัตย์ต่อค่านิยมของคุณ

ชีวิตคนเราไม่ควรที่จะจมปลักกับอดีตให้นานจนเกินไป เพราะเวลาในแต่ละวันต่างก็หมุนผ่านไปเรื่อยๆ ในทุกวันดังนั้นหากเราต้องการพลังให้สามารถก้าวเดินต่อไปได้อย่างเข้มแข็งจริงๆ เชื่อเถอะว่าการปลดปล่อยอดีตให้ผ่านพ้นไปย่อมเป็นสิ่งที่เราควรทำมากที่สุด คำคมเหล่านี้เสมือนเป็นอีกมุมมองแนวความคิดของการใช้ชีวิตที่อาจช่วยฉุดคุณให้รู้ว่าชีวิตยังมีอะไรมากกว่าที่คุณคิด

อย่ามัวเสียเวลาอยู่กับสิ่งที่ผ่านมา เพราะเวลาไม่เคยรอใคร การได้ใช้ชีวิตที่ต้องการจริงๆ บวกกับไฟแห่งฝันที่ยังคงคุกรุ่น นั่นอาจจะช่วยให้ชีวิตย่อมมีความหมายในตัวของมัน เวลาของเราทุกคนมีขีดจำกัดแต่ก็ใช่ว่าจะปล่อยเวลาที่เหลือให้ทิ้งขว้างไปโดยที่ไม่มีคุณค่าใดๆ ตอบแทนกลับมาเสมือนกับคำคมของดาราแห่งตำนานหนัง Action ผู้ยิ่งใหญ่ผู้มีนามว่า Bruce Lee ที่ได้กล่าวเกี่ยวกับเรื่องของเวลาว่า  “ If you love life, don’t waste time, for time is what life is made up of ”

โดย คำคม ในบทนี้มีความหมายอยู่ว่า “หากคุณรักชีวิตดังนั้นอย่าจงเสียเวลา เพราะว่าเวลาเองก็คือสิ่งที่ประกอบขึ้นมาจากชีวิต” … แน่นอนว่าเราทุกคนเกิดมาเราต่างก็มีความรักในชีวิตที่แตกต่างกัน บางคนมีมากหรือบางคนมีน้อย ดังนั้นหากยังอยากมีชีวิตอยู่ให้นานๆ การได้ทำในสิ่งที่ไม่ได้ทำ หรือการที่ทำในสิ่งที่ตัวเองคิดไว้ว่าอยากจะทำมานาน นั่นคือสิ่งที่คุณควรจะโฟกัสมัน “Don’t let the fear of the time it will take to accomplish something stand in the way of your doing it. The time will pass anyway; we might as well put that passing to the best possible use”

อีกหนึ่ง คำคม เกี่ยวกับเวลาของ Earl Nightingale นักพูดสร้างแรงบันดาลใจชื่อดังโดยมีใจความอยู่ว่า “อย่าปล่อยให้ความกลัวในการที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จในการจะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งนั้นมาขวางทางคุณ เพราะไม่ว่าเวลาจะผ่านไปอย่างไรเราก็อาจใช้การส่งผ่านนั้นให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด” ซึ่งนั่นมีความหมายว่าเราควรที่จะทำอย่างสม่ำเสมอแล้วความสำเร็จจะรอคุณอยู่ที่ปลายทาง “Either you run your day, or your day runs you“

ความสำเร็จของคนเราบางครั้งก็อาจมาจากการจัดการบริหารที่ดี และนี่ก็คือ คำคม ของ Jim Rohn โดยมีใจความอยู่ว่า “เราควรที่จะบริหารจัดการเวลาอย่าให้เวลามาจัดการเรา” นับว่าเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจดีๆ ที่ยังคงเป็นอมตะและจริงอยู่เสมอไม่ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน

และนี่ก็คือ คำคม เกี่ยวกับเวลาของคนดังในอดีตที่ยังคงเป็นที่พูดถึงมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะชีวิตยังมีอะไรให้ค้นหาอีกเยอะ อย่าปล่อยเวลาให้ผ่านไปเสียเปล่า ปลดปล่อยอดีตให้ผ่านไปเป็นเรื่องของเมื่อวาน แล้วมาสร้างพลังสู่วันที่ดีของเราในวันพรุ่งนี้กันดีกว่า

ทุกคนนั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะเจอปัญหาและอุปสรรคที่เข้ามาในชีวิต ปัญหามากบ้างน้อยมากก็สุดแล้วแต่การใช้ชีวิตของแต่ละคน สิ่งสำคัญที่สุดเลยก็คือคุณจะต้องมี “ความแข็งแรงทางจิตใจ” ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นภูมิคุ้มกันที่ทำให้เราสามารถต่อสู้กับปัญหาต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตได้ทั้งหมด

“ฟ้าหลังฝนย่อมดีเสมอ” หากเมฆครึ้มก่อตัว เกิดลมพายุพัดแรง เสียงฟ้าร้องฟ้าผ่า ในที่สุดก็เกิดเป็นฝนตกกระหน่ำลงมา แม้จะเป็นแบบนั้นมันก็ต้องมีวันหยุดลง แล้วก็เผยให้เห็นท้องฟ้าที่สดใสดวงอาทิตย์สาดส่องลงมาสวยงาม ซึ่งเปรียบได้กับปัญหาต่าง ๆ ที่เข้ามาในชีวิตมันไม่ได้อยู่กับเราตลอดไปหรอก ขอเพียงแค่เราคิดในทางบวกเข้าไว้ หาวิธีแก้มันโดยใช้สติปัญญาเป็นหลัก แล้วสักวันหนึ่งปัญหานั้นมันก็จะแก้ไขได้หรือเบาบางลงไปเอง

หากคุณมีอาการที่ท้อแท้ สิ้นหวัง รู้สึกว่าตัวเองนั้นทำอะไรก็ล้มเหลว สุดท้ายไม่มีกะจิตกะใจในการที่จะทำงานอีกต่อไปได้แต่นอนคิดถึงแต่อดีตที่ผิดพลาดของตัวเอง จมปลักกับความผิดพลาดนั้น 

เอาละ! ให้คุณคิดใหม่ ให้ถือเสียว่าความผิดพลาดนั้นเป็น “บทเรียนในชีวิต ราคาแพง” ที่หาซื้อไม่ได้ มีคำคมหนึ่งที่กล่าวไว้ว่า “ความล้มเหลวและผิดพลาดเป็นครูที่ดี” ซึ่งหมายถึงว่า หากเราทำผิดพลาดไปสิ่งนั้นจะสอนเราไม่ให้ไปทำผิดซ้ำสองอีก ทำให้เราได้เรียนรู้จากมันและนำสิ่งผิดนั้นไปปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น

คนที่คิดบวกอยู่ตลอดเวลาเขาจะมองทุกปัญหาเป็นโอกาสอยู่เสมอ เขาพร้อมเตรียมตัวอยู่ตลอดเวลาและมองว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วที่จะต้องพบเจอมัน ซึ่งต่างจากคนที่คิดลบ แม้เรื่องเล็ก ๆ ปัญหาเล็กนิดเดียวก็สามารถที่จะทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงมืดบอดในความคิด มองไปทางไหนก็จะเจอแต่ทางตันไม่สามารถหาทางออกให้แก่ชีวิตของตนเองได้

ย่อมดีว่าหากคุณฝึกคิดบวกกับทุกเรื่องที่มันเข้ามาในชีวิตคุณ พอปัญหาเข้ามาในชีวิตปุ๊บ ให้คุณลองวิเคราะห์ดูสิว่าเราได้ประโยชน์จากสิ่งนั้นไหม พอเราแก้ปัญหานี้ได้ผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร สิ่งหนึ่งที่คุณจะได้แน่ ๆ เลยก็คือ “การได้ฝึกใจตนเอง” เมื่อเราได้ฝึกใจบ่อย ๆ ก็จะทำให้ใจเราแข็งแรงมากกว่าคนอื่น สามารถที่จะต่อสู้กับอุปสรรคที่เข้ามาในชีวิตได้มากกว่าคนอื่น จนในที่สุดแล้วทุกอุปสรรคและปัญหาก็จะพ่ายแพ้เราไปเอง

มนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่ต้องการการอยู่ร่วมกับผู้อื่น แต่หลายครั้งความสัมพันธ์ก็ไม่ได้ราบรื่นเสมอไป หลายคนอยู่ในความสัมพันธ์ที่เรียกว่า “ เป็นพิษ ” ไม่ว่าจะเป็นเจ้านาย เพื่อนร่วมงาน คนในครอบครัว คนรักหรือเพื่อน แต่เราต้องพึ่งพวกเขาเพื่อที่จะรู้สึกเป็นที่ยอมรับและไม่รู้สึกโดดเดี่ยว 5 คำคมดังต่อไปนี้จะทำให้คุณรักตัวเองได้ดีพร้อม ๆ กับรักคนอื่นและตัดความสัมพันธ์ที่เลวร้ายได้ด้วย

อยู่คนเดียวไม่ตายแต่ไม่มีเงินตาย

หลายครั้งที่เรารู้สึกผิดหวังกับคนนั้นคนนี้แต่ว่าก็ผ่านมาได้ทุกครั้ง นั่นเป็นเพราะเรามีเงินซื้อข้าว จ่ายค่าเช่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ต ชีวิตมันอยู่ของมันได้เพราะชีวิตถูกแบบมาให้ขึ้นลง ไม่แน่นอน แต่ชีวิตไม่ได้ถูกออกแบบมาให้อดข้าว อดน้ำ ( อดดูหนัง อดเที่ยว )

หล่อ สวย ถูกสเปค เอาใจเก่ง อาจเป็นแค่งานเลี้ยง

คนหล่อ คนสวย ถูกสเปคเอาใจเก่งแต่ให้เราจ่ายคนเดียวตลอด ให้ถือว่าอยู่ในปาร์ตี้หรืองานเลี้ยงชั่วคราวซะ และที่สำคัญคือต้องมีวันสิ้นสุด สิ้นสุดการที่ต้องจ่ายคนเดียว รักชอบกันจริงก็ต้องคนละครึ่ง แต่คนส่วนมากจะไม่ไปถึงจุดนั้น เขาจะเลิกกับเราแล้วไปเอาใจคนอื่นแทน ให้ถือซะว่าได้ซื้อประสบการณ์และความสุข หรือได้ปาร์ตี้นั่นเอง ไม่ได้ขาดทุนอะไร

ใคร ๆ ก็รักคนที่รักตัวเอง

คนที่รักตัวเองจะดูแลตัวเองได้ดี ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพกาย สุขภาพใจ สุขภาพเงิน คำพูด นิสัยใจคอ เขาจะปฏิบัติกับคนอื่นดีเพราะอยากให้คนอื่นปฏิบัติดีกับเขาเช่นกัน เมื่ออยู่ใกล้เขาแล้วจะสบายใจเพราะเขาดูแลตัวเองได้ มีความมั่นคงทางอารมณ์ และผ่อนคลาย ถ้าเราได้อยู่กับคนที่ไม่มั่นใจในตัวเอง ดูแลตัวเองได้ไม่ดีและชีวิตวุ่นวายมา พอมาอยู่ใกล้ ๆ คนที่รักและดูแลตัวเองได้ดี เราจะรู้สึกเหมือนได้หายใจในป่าดงดิบ สดชื่น สงบ มีพลัง นี่คือเหตุผลว่าทำไมใคร ๆ ถึงชอบหรือรักคนที่รักตัวเอง

ใส่ใจไม่ใช่เอาใจ

ใส่ใจกับทุกคนที่อยู่รอบตัวแต่ไม่ต้องถึงขั้นเอาใจ ตัวอย่างเช่น เมื่อมีแขกมาพักที่บ้านเราควรใส่ใจกับสิ่งจำเป็นเช่น เตียงนอนสะอาด ห้องน้ำสะอาดมีสบู่ ยาสระผม ยาสีฟัน น้ำเปล่า เขาต้องกินข้าวเช้าก่อนกินยาไหม หากเป็นเช่นนั้นควรมีโจ๊กและกระติกน้ำร้อน แต่เอาใจคือการบอกว่า คืนนี้พี่จะพาไปปาร์ตี้นะ เป็นต้น เอาใจใส่ทำให้ทุกคนรู้สึกดีแต่เอาใจจะทำให้พวกเขาอึดอัด และถ้าเอาใจคนอื่นเราจะไม่มีเวลาดูแลตัวเอง เพราะฉะนั้นแค่ใส่ใจจะดีที่สุด

ปล่อยสิ่งต่าง ๆ ให้เป็นไปตามธรรมชาติ

มีคนรักก็มีคนเกลียด มีคนสรรเสริญก็มีคนนินทา สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เมื่อเราเข้าใจแบบนี้ เราจะมีความเยือกเย็น สงบและเป็นสุข สิ่งที่ยากที่สุดคือการบังคับใจ หรือยัดเยียดให้คนอื่นมาชอบเรา ใครจะชอบเราหรือโปรดปรานเรานั้นให้เป็นไปโดยธรรมชาติ ไม่ต้องพยายาม เพียงแค่เรารักและดูแลตัวเอง ใส่ใจคนรอบข้าง ทำให้ดีเท่าที่จะทำได้ก็พอแล้ว

การรักตัวเองนั้นเงินยังคงเป็นสิ่งจำเป็นทำให้ชีวิตขับเคลื่อนต่อไป ไม่ควรเอาใจคนอื่นมากเกินไป เข้าใจกฎของธรรมชาติที่งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา รักตัวเองแล้วเราจะสดชื่น มีความสุข มีมุมมองชีวิตใหม่ ๆ เจออะไรใหม่ ๆ อะไรที่ดีกว่าเดิม

ในการขับเคลื่อนชีวิตมนุษย์ให้ประสบความสำเร็จ เราต้องใช้เครื่องมือมากมายในการพัฒนาชีวิตให้ก้าวไปสู่เป้าหมายให้ได้ดั่งใจหวัง ซึ่งแน่นอนว่าเราคงไม่สามารถสำเร็จได้ด้วยเครื่องมือใดเครื่องมือหนึ่ง แต่เราอาจจะต้องผนวกหลากหลายเครื่องมือเข้าด้วยกัน และหนึ่งในเครื่องมือทรงพลังที่สามารถสร้างแรงผลักดันสำคัญให้กับเราก็คือ คำคม

คำคม คือ วลี หรือประโยคสั้น กระชับ ที่ประกอบด้วยถ้อยคำมากความหมาย ได้อรรถรสทางภาษา ชวนให้ครวญคิด เข้าถึง จดจำ และส่งต่อได้ง่าย เป็นการสานส์อีกรูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมในวงกว้างในทุกสาขาอาชีพ ซึ่งมักจะเกิดจากประสบการณ์ที่ประสบพบเจอ บทสรุปของบทเรียนบางอย่าง หรืออาจจะเป็นการปลดปล่อยออกมาในช่วงชีวิตที่บีบคั้นสูงสุด ซึ่งคำคมเหล่านี้จะส่งผลทางใจที่จะนำมาซึ่งทางสว่างให้ใครต่อใครอีกหลายคน

ลักษณะของคำคม และประโยชน์ที่ได้รับ

คำคมปลุกพลัง เป็นกลุ่มคำที่มีพลังกระตุ้นเตือนใจให้ฮึกเหิม เข้มแข็ง พร้อมลุกขึ้น ฮึดสู้ และก้าวต่อไปข้างหน้าอย่างมุ่งมั่น คำคมประเภทนี้มักจะหยิบมาใช้เป็นแรงผลักดันในเรื่องงาน และการใช้ชีวิตในช่วงยากลำบาก เพื่อประโยชน์ส่วนบุคคล หรือการสร้างสรรค์พลังทีมให้ผนวกรวมร่วมสู้ไปด้วยกัน

คำคมกระตุ้นเตือนให้คิด คำคมประเภทนี้มักให้แง่คิด อาจมีส่วนผสมของข้อธรรม สัจธรรมในชีวิตเข้ามาผสมผสานชวนให้ขบคิด คำคมประเภทนี้จะช่วยดึงสติกลับมาเพื่อให้เกิดการไตร่ตรอง กลั่นกรองเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น ติดตามหาที่มาที่ไป หาเหตุผลประกอบให้รอบคอบมากขึ้น นำสู่การตัดสินใจลงมือทำได้ถูกต้องเหมาะสม ลดความผิดพลาด และนำสู่สัมฤทธิ์ผลที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

คำคมเพื่อความบันเทิง รวมถ้อยคำชวนสนุก รับสานส์แล้วเป็นสุข และได้เห็นภาษาสร้างสรรค์ในคำคมประเภทนี้ ช่วยสร้างรอยยิ้ม ความประทับใจ สร้างการจดจำได้เป็นอย่างดี สามารถเป็นเครื่องมือร้อยความสุขในกลุ่มเพื่อน คนรัก หรือแม้แต่ในกิจกรรมเพื่อความบันเทิงต่าง ๆ

คำคมสื่อสารคำมั่นสัญญา เป็นคำคมที่เหมาะสำหรับการสร้างสายสัมพันธ์อันดี ของคนในครอบครัว เพื่อน หรือทีมงาน เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ของคนมากกว่า 1 คนขึ้นไปที่จะช่วยกันร่วมคิด ร่วมสร้างคำมาเรียงร้อยเพื่อให้ได้คำคมหนึ่งบรรทัดที่กระชับ ได้ความหมายครบถ้วนในเป้าหมายที่วางไว้ร่วมกัน หรือสื่อสารให้ถึงแก่นแกนในวิถีปฏิบัติที่จะทำร่วมกันโดยไม่บิดพลิ้วไม่ย่อท้อ เช่น คำคมที่ใช้เป็นคำปฏิญาณระหว่างกลุ่มเพื่อน คำคมที่เป็นเป้าหมายของทีม เป็นต้น

คำคมสื่อสารความในใจ เป็นถ้อยคำความในที่อยากจะสื่อสารออกไปแบบอ้อมๆ แต่ยังคงไว้ซึ่งภาษาที่เข้าใจง่ายมีความหมายลึกซึ้งซ่อนอยู่ ใช้ถ้อยคำประณีต สะเทือนใจ สร้างการจดจำและประทับใจ สะท้อนถึงความใส่ใจพยายามในการสื่อสาร คำคมประเภทนี้ยังเป็นทางออกสำหรับผู้ที่อาจจะไม่กล้าสื่อสารแบบตรงไปตรงมาได้อีกด้วย เช่น การแสดงความในใจกับคนรัก การสื่อมิตรภาพระหว่างเพื่อน การกล่าวขอโทษ เป็นต้น

ด้วยพลังและคุณค่าของ คำคม ดังกล่าวข้างต้นทำให้ คำคม เข้ามามีบทบาทในการดำเนินชีวิตของมนุษย์เราเป็นอย่างมาก และหากได้นำมาปฏิบัติตามด้วยความมุ่งมั่น หลายคำคมสามารถนำสู่การแก้ปัญหาได้สำเร็จเร็วขึ้นอีกด้วย และยังเป็นตัวช่วยให้คนอื่นที่อยู่ในสถานการณ์วิกฤติได้พบทางออกที่สุขสว่างอีกครั้ง คำคมที่เปี่ยมพลังเพียง 1 บรรทัด สามารถพลิกชีวิต และกำหนดอนาคตเราได้

ในช่วงนี้เชื่อว่าหลายคนกำลังประสบปัญหาและบอบช้ำจากวิกฤตในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา บางคนโชคดีสามารถผ่าวิกฤตได้ บางคนโชคร้าย ตกงาน สิ้นหวังและต้องการกำลังใจ หากพอจะมี คำคม ดี ๆ ให้กำลังใจ ได้ฮึดสู้ขึ้นมาใหม่และพร้อมชี้ทางสว่างให้ ก็คงจะดีไม่น้อย เรามาลองดูคำคมต่อไปนี้กัน อาจจะมีบางคำบางประโยคที่ช่วยจุดประกายให้พลังใจกับคุณก็เป็นได้

อะไรที่ได้มาง่าย ๆ มักไม่มีค่า การใช้ชีวิตก็เช่นกัน

หากทางที่เดินอยู่มันไปไม่ถึงจุดหมาย จงเปลี่ยนเส้นทางใหม่ แต่อย่าล้มเลิกเป้าหมาย

ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน

ชีวิตก็เหมือนกับการเดินขึ้นภูเขา มีขึ้น มีลง เพื่อขึ้นไปภูเขาลูกใหม่ที่สูงกว่า

จงทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เหมือนวันนี้เป็นวันสุดท้าย

โอกาสมักจะมาพร้อมวิกฤตเสมอ แค่หามันให้เจอ

จงทำตัวให้เหมือนขี้หมา แม้มันจะไร้ค่า แต่ก็ไม่มีใครกล้าเหยียบ

บางครั้งการแบกทุกอย่างไว้คนเดียวก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา

หากเราไม่ลืมว่าตัวเองมีค่า เราก็จะมีค่าตลอดไป

นกไม่ได้กลัวกิ่งไม้หัก เพราะนกมั่นใจในปีกของมัน

อย่าเอาตัวเองไปเปรียบกับคนอื่น เพราะนกไม่เคยว่ายน้ำและปลาไม่เคยบินขึ้นฟ้า

คนที่ผิดพลาดคือคนที่ลงมือทำ ดีกว่าคนที่ไม่เคยผิดพลาดเพราะไม่เคยลงมือทำ

แม้เราจะมีต้นทุนมาน้อย แต่เรามีมากกว่าคือ ความพยายาม

อย่ากลัวที่จะแตกต่าง

ถ้าวันนี้มันแย่ ก็แค่เข้านอนไวไว

บางสิ่ง บางอย่าง ต้องใช้เวลา

กรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว ความสำเร็จก็เช่นกัน

Make it happen, Shock Everyone. ทำมันให้สำเร็จ เอาให้ทุกคนหน้าหงายไปเลย

If you get tried, learn to rest not to quit. ถ้าคุณเหนื่อย จงเรียนรู้ที่จะพัก แต่อย่าล้มเลิก

Life is better when you’re laughing. ชีวิตดีขึ้นได้ แค่คุณหัวเราะ

อย่าดูถูกตัวเอง เท่าที่ทำมาถึงทุกวันนี้ เยี่ยมที่สุดแล้ว

ลูกเมียอยู่ข้างหลัง ความหวังอยู่ข้างหน้า กลัวหรือกล้า อยู่ที่ใจ

ความสำเร็จไม่ได้วิ่งหาเรา แต่เป็นเราต้องวิ่งหาความสำเร็จ

การเดินทางหนึ่งพันไมล์ เริ่มด้วยก้าวแรกเสมอ

หากไม่เริ่ม ก็ไม่สำเร็จ

บางสิ่งในชีวิตไม่จำเป็นต้องดีที่สุด แค่ไม่ทุกข์ก็พอแล้ว

การไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ

จงเชื่อในสิ่งที่ทำ และทำในสิ่งที่รัก

อย่าร้องไห้ เสียใจกับเหตุผลเดิม ๆ

ไม่ว่าจะเหนื่อยมากแค่ไหน จงจำไว้ว่ามีวันเสาร์-อาทิตย์ให้หยุดเสมอ

จงทำตัวให้เหมือนต้นไม้ โดนตัดกิ่งมากแค่ไหน ยิ่งเติบใหญ่มากขึ้น

หวังว่า คำคม ดังกล่าวจะสามารถเป็นแรงใจให้กับทุกคนที่กำลังประสบปัญหาอยู่และก้าวพ้นปัญหาไปได้ หลายคนต้องการความสำเร็จ อยากรวย อยากมีความสุข บางคนต้องใช้เวลา บางคนใช้เวลาไม่นาน หากต้องการจะประสบความสำเร็จ คำคมเหล่านี้สามารถปรับวิธีคิด เปลี่ยนมุมมอง เพราะหลายต่อหลายคนพบเจอขุมทองท่ามกลางวิกฤตที่เข้ามา

ยุคอินเทอร์เน็ตทุกอย่างต้องรวดเร็วทันเวลา ส่งผลให้สิ่งต่าง ๆ ตึงเครียดไม่ว่าจะเป็นงานที่ต้องปรับปรุงให้ดีขึ้นหรือมีแนวคิดใหม่ ๆ อยู่เสมอ ภาระหนี้สินที่เพิ่มมากขึ้น เพราะสมัยนี้กู้ง่ายไม่เหมือนสมัยก่อน ใครที่ติดอยู่ในวงจรนี้จะรู้เลยว่าอึดอัดหายใจลำบากกับค่าใช้จ่ายตลอด ผู้คนมัวแต่ยุ่งกับงานหรือการหาเงินใช้หนี้สินจนบางคนจำไม่ได้ว่าไปกินข้าวกับญาติ แฟน เพื่อนฝูงครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ขณะที่ทุ่มเทให้กับงานและหน้าที่จนหมดแรงกายแรงใจแล้วรางวัลที่ได้มาก็แค่อยู่รอดไปเป็นเดือน ๆ ชีวิตแห้งแล้ง ใจร้อน อารมณ์เสียง่าย คาดหวังกับสิ่งต่าง ๆ สูงเกินจริง พอผิดหวังขึ้นมาแล้วบางคนก็หดหู่และถึงขั้นลุกขึ้นมาทำอะไรไม่ได้เลย 3 คาถาชีวิต หรือ 3 คำคมดังต่อไปนี้ จะให้คุณหายใจเข้าได้เต็มปอดและมีแรงฮึดสู้ชีวิตต่อ

ปัจจุบันสำคัญที่สุด จงเพลิดเพลินกับมัน

มีเรื่องต้องสะสางที่เกิดขึ้นเมื่อวานเพื่อความเข้าใจอันดี มีเรื่องที่ต้องทำให้ดีพรุ่งนี้เพื่ออนาคต ถึงแม้ว่าจะ สำคัญขนาดไหนก็ไม่สำคัญเท่ากับเวลาปัจจุบัน ณ ขณะนี้ ใครที่มีงานทำถือว่าโชคดีและใครที่ได้ทำงานที่ตัวเองชอบนั้นโชคดีที่สุดเพราะแต่ละนาทีจะผ่านไปอย่างเพลิดเพลินและอิ่มอกอิ่มใจ ถ้าตอนนี้เรามีงานทำให้กอดมันไว้ หรือถ้าไม่มีก็จงหาความเพลิดเพลินใจจากทุกสิ่งที่ทำ ไม่ว่าจะเป็นการดูหนังละคร การทำงานบ้าน การทำสวน หรือการทำจดหมายแนะนำตัวสมัครงาน เราสามารถเพลิดเพลินกับการเลือกรูปถ่ายและเลือกแบบอักษร รวมถึงการจัดหน้าจดหมาย พอรู้ตัวอีกทีก็ได้เวลากินข้าวเที่ยงอร่อย ๆ หรือดื่มกาแฟหอม ๆ แล้ว และที่สำคัญที่สุดของการอยู่กับปัจจุบันคือต้องกิน เพราะร่างกายต้องการสารอาหารเพื่อจะรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า เครียดได้แต่อย่าลืมกินข้าวให้ตรงเวลา และกินของดี ๆ ด้วย

มันจะค่อย ๆ ดีขึ้น ตอนนี้ให้อดทนก่อน

เมื่อผิดหวังหรือเศร้าเสียใจใหม่ ๆ เรามักมองไม่เห็นทางออกได้แต่จมอยู่กับมันถึงแม้รู้ว่าความรู้สึกนี้มันชั่วคราวก็ตาม วิธีที่จะทำให้รู้สึกดีขึ้นแบบเร็วที่สุดคือการออกไปพูดคุยกับเพื่อนที่รู้ใจในร้านกาแฟ แต่หลายคนไม่มีโอกาสทำแบบนั้นเพราะอาจเป็นตอนกลางคืนต้องนอนพักผ่อนจะได้ตื่นไปทำงานตอนเช้า หรือโทรหาเพื่อนแต่เพื่อนไม่ว่างคุย ส่วนใหญ่ก็นอนคิดมากบนเตียงคนเดียวกว่าจะหลับก็อาจนานหน่อย ให้เราบอกตัวเองทุก ๆ ลมหายใจว่า “ มันจะค่อย ๆ ดีขึ้น อดทน ๆ ตอนนี้มันก็ดีขึ้นแล้วนะแต่เรายังไม่สังเกต ”

เรื่องแย่ในชีวิต คือบททดสอบ คนอื่นผ่านไปได้เราก็ทำได้

เพราะคนออกไปใช้ชีวิตและเจอเรื่องราวมากมาย คนที่เขาสมหวังตลอด ไม่เคยถูกหลอก ไม่เคยโดนโกง ไม่เคยถูกเอาเปรียบ ไม่เคยโดนนินทานั้นเขานอนอยู่บ้านเฉย ๆ หรือไม่ก็อยู่กับสุนัขรู้ใจไม่พบปะผู้คน ( แต่บางครั้งเขาก็โดนนินทาประมาณว่า อยู่ได้ยังไงไม่อึดอัดเหรอ ) เมื่อผิดหวังขอให้รู้ว่ามีคนที่ผิดหวังแบบเราหรือแย่ยิ่งกว่า อ่านข่าวในมือถือแล้วจะเจอข่าวฆ่าคนอื่น ฆ่าตัวตายรายวัน นับเป็นความทุกข์อย่างที่สุดเพราะถึงขั้นทนหายใจไม่ได้อีกต่อไปแล้ว เราอาจโดนโกง โดนหลอก โดนนินทา แต่ก็มีหลายคนโดนหนักกว่า

เพราะไม่มีใครหนีทุกข์ได้ เมื่อยามใดที่รู้สึกท้อแท้หมดหวัง ให้เราท่องไว้ว่า “ มันจะค่อย ๆ ดีขึ้น อดทน ๆ ตอนนี้สำคัญที่สุด ถึงเวลากินกิน ถึงเวลานอนนอน ” เรามีคาถานี้แล้ว ในอนาคตหากมีเรื่องต้องให้ผิดหวังเศร้าใจอีกก็ไม่กลัวอีกต่อไป

ในมุมมองของลูกค้าที่ต้องการความเอาใจใส่มีคำพูดมากมายที่เพื่อก้าวสู่ความสำเร็จ คำคมที่ทรงพลังจากผู้มีประสบการณ์สร้างทัศนคติเป็นบวกต่องานบริการ สร้างแรงบันดาลใจในการดูแลเอาใจใส่ลูกค้าให้อยู่กับเราตลอดไป มีคำพูดที่น่าสนใจดังนี้

สตีฟ จ็อปส์ ผู้ก่อตั้งบริษัทแอปเปิล จากโลกนี้ไปนาน 10 ปีแล้วแต่คำคมของเขายังทรงพลังและคนรุ่นหลังยังนำไปใช้ประโยชน์ได้เสมอ คำพูดหนึ่งที่แสดงวิสัยทัศน์ของเจ้าของผลิตภัณฑ์ไอโฟนได้กระจ่างชัดเจนคือ “ใกล้ชิดกับลูกค้าของคุณให้มากขึ้นกว่าเดิม เดาใจถูกว่าลูกค้าต้องการอะไรหรือบริการแบบไหนก่อนที่พวกเขาจะรู้ตัวเสียอีก” แสดงให้เห็นว่าแอปเปิลศึกษาและสังเกตจนเข้าใจลึกซึ้งว่าลูกค้าต้องการอะไรและเสนอขายลูกค้าก่อนแบรนด์อื่นทำให้มีความได้เปรียบคู่แข่ง เรียกว่าปิดยอดขายได้ก่อนใคร ไม่ต้องรอให้ลูกค้าเรียกร้องตรง ๆ และเป็นได้แค่เพียงหนึ่งในตัวเลือกเท่านั้น นับเป็นกลยุทธ์การขายที่เฉียบแหลมและมีประสิทธิภาพมาก ผูกใจลูกค้าให้กลับมาหาและความภักดีไม่จางหาย

บิล เกตส์ พ่อมดแห่งไมโครซอฟต์ กล่าวไว้ว่า “ลูกค้าที่ไม่มีความสุขที่สุดของคุณเป็นแหล่งการเรียนรู้ที่ดีที่สุด” จะเห็นว่าประสบการณ์ของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ รู้จักสังเกตและขัดเกลาความคิด ไม่เพียงการพัฒนาสินค้าหรือบริการที่ตอบสนองความพอใจของลูกค้าเท่านั้น แต่ต้องฝึกวิธีคิดแก้ไขจุดบกพร่องเพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับลูกค้าได้ด้วย ลูกค้าไม่ได้คาดหวังความสมบูรณ์แบบ แต่คาดหวังให้แก้ไขสิ่งต่าง ๆ ที่ผิดพลาด แนวคิดของบิล เกตส์คือ “คิดว่าจะทำอย่างไรให้ลูกค้าพอใจและมุ่งพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ได้ เพราะถ้าเราไม่ทำ คู่แข่งอื่น ๆ ก็จะทำ” ทำให้ลูกค้ากลุ่มที่เฝ้ารอสินค้าตรงใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟต์ สามารถขายได้ทั้งลูกค้าดั้งเดิมและลูกค้าที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมาย

ดักลาส วอร์เนอร์ นายธนาคารที่เข้าร่วมบริษัทมอร์แกน การันตี ทรัสต์ กล่าวคำคมที่น่าสนใจมาก ๆ ว่า “ในโลกของการบริการลูกค้าทางอินเทอร์เน็ต สิ่งสำคัญที่ต้องจดจำให้ดีคือคู่แข่งของคุณอยู่ห่างออกไปแค่คลิกเมาส์เพียงครั้งเดียว” หมายความว่าการให้ข้อเสนอและตอบสนองรวดเร็วเป็นสิ่งสำคัญ ในยุคที่แข่งขันกันในตลาดออนไลน์การติดต่อสื่อสารที่กระชับฉับไวมีอิทธิพลสูงมาก ประสบการณ์ที่ส่งมอบให้กับลูกค้าถือเป็นตัวตัดสินได้เลยว่าพวกลูกค้าจะกลับมาใช้บริการซ้ำหรือสูญเสียลูกค้าไปง่าย ๆ

เจฟฟ์ เบซอส ผู้ก่อตั้งบริษัทแอมะซอน กล่าวว่า “หากลูกค้าไม่พอใจบริการในร้านค้าทั่วไป แต่ละคนอาจบอกต่อเพื่อน 6 คน แต่ถ้าทำให้ลูกค้าไม่มีพอใจบนอินเทอร์เน็ต แต่ละคนอาจบอกต่อเพื่อนได้ถึง 6,000 คน” การบริการลูกค้าทางออนไลน์คือการตลาดรูปแบบใหม่ที่ต้องตอบสนองลูกค้าด้วยความเอาใจใส่ยิ่งขึ้น ต้องเข้าถึงอารมณ์ของลูกค้าอย่างแท้จริง ผู้ขายได้เรียนรู้มากมายจากการฟังลูกค้าอย่างตั้งใจจึงจะขับเคลื่อนยอดขายและรักษาความภักดีของลูกค้าได้

ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงบริษัทธุรกิจที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่เน้นความพอใจของลูกค้าเป็นจุดศูนย์กลาง ลูกค้ามีความต้องการมากขึ้นและมีอำนาจที่จะเลือกมากขึ้น ลองพิจารณาคำคมที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้ยกระดับบริการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้ามากเท่าไร ยิ่งมีโอกาสเข้าตาและปิดการขายได้มากขึ้นเท่านั้น