คำคมสอนใจ ช่วยเพิ่มพลังให้คิดบวก

คำคมสอนใจ ช่วยเพิ่มพลังให้คิดบวก

ต่อไปนี้เป็นคำพูดเล็กๆ น้อยๆ ที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้มีทัศนคติเชิงบวก

พลังแห่งมุมมอง: “ความสุขในชีวิตของคุณขึ้นอยู่กับคุณภาพความคิดของคุณ” – มาร์คัส ออเรลิอุส. คำพูดนี้เตือนเราว่าเราสามารถเลือกวิธีตีความสถานการณ์ได้

ในการเลือกความคิดเชิงบวก: “ความสุขคือทางเลือก ไม่ใช่ผลลัพธ์ ไม่มีอะไรจะทำให้คุณมีความสุขได้ จนกว่าคุณจะเลือกที่จะมีความสุข” – สวามี ชินมายานันทะ ความสุขเป็นงานภายใน และคำพูดนี้เน้นว่าเรามีพลังที่จะปลูกฝังมัน

ในการค้นหาสิ่งที่ดี: “เมื่อคุณเริ่มจดบันทึกสิ่งที่คุณรู้สึกขอบคุณ คุณจะเริ่มมองไม่เห็นสิ่งที่คุณขาด” – รอย ที. เบนเน็ตต์ ความกตัญญูกตเวทีเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการเปลี่ยนความสนใจของเราไปสู่ด้านบวกของชีวิต

ในการเริ่มต้นใหม่: “ทุกวันคือผืนผ้าใบว่างเปล่า รอให้คุณวาดภาพผลงานชิ้นเอกของคุณ” – ไม่ทราบ คำพูดนี้กระตุ้นให้เรามองว่าแต่ละวันเป็นโอกาสใหม่

ผลกระทบระลอกคลื่นของความเมตตา: “ความเมตตาเป็นโรคติดต่อ” – ไม่ทราบ การแสดงความเมตตาที่เรียบง่ายสามารถยกระดับไม่เพียงแต่ตัวเราเองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคนรอบข้างด้วย

นั่งปรับความคิดและจิตใจ ทำอย่างไรให้สงบ

นั่งปรับความคิดและจิตใจ ทำอย่างไรให้สงบ

อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าในปัจจุบันนั้นการดำเนินชีวิตของเราในปัจจุบันก็เป็นต้นเหตุที่ทำให้การควบคุมอารมณ์และจิตใจของเราแย่ลง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการขับขี่พาหนะบนท้องถนน เช่น การขับรถปาดหน้า แซงซ้ายแซงขวา รอไฟแดงนาน หรือรถติด ปัญหาในเรื่องของการทำงาน เช่น การโดนเจ้านายต่อว่า การถูกติฉินนินทาจากเพื่อนร่วมงาน หรืออุปกรณ์การทำงานบกพร่องทำให้งานไม่เป็นไปตามอย่างที่คาดหวังไว้ และอีกมากมายหลายปัญหาที่รุมเร้าเข้ามา ทำให้เราอดทนเก็บอารมณ์ความโกรธ โมโห หงุดหงิดไว้ให้คุกรุ่นภายในใจ ถึงแม้ว่าอารมณ์ความโกรธ โมโห หงุดหงิด หรือไม่พอใจเป็นเรื่องปกติของเราทุกคน แต่ถ้ามากจนเกิดไปก็อาจจะทำให้สุขภาพจิตของเราถูกทำลายได้

เหรียญมี 2 ด้านฉันใด ชีวิตก็มี 2 ด้านฉันนั้น ความโกรธก็เช่นกัน หากมีเหตุการณ์ไม่ถูกใจเข้ามากระทบชีวิต จะเป็นเรื่องทะเลาะในครอบครัว พนันฟุตบอลแล้วตารางบอลผลออกไม่ตรงกับผลที่ตนเองคาดการณ์ไว้ การแสดงออกทางอารมณ์นั้นทำให้เราสามารถควบคุมเหตุและผลของมันได้ ความโกรธทำเรามองเห็นต้นเหตุของปัญหาหรือจดจ่อกับสิ่งที่กำลังทำอยู่มากขึ้น และความโกรธก็สามารถทำให้เรามั่นใจในตนเองมากขึ้นด้วยเช่นกัน ทำให้เราพร้อมที่จะสู้และแก้ปัญหาได้ตรงจุดมากขึ้น ตัดสินใจได้เร็วขึ้น แต่อย่างไรก็ดีหากความโกรธของเรานั้นมีมากจนเกินพอดี ก็อาจทำให้เราเป็นคนที่ใช้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลก็เป็นได้

แล้วเราจะทำอย่างไรให้จิตใจสงบ ความสงบนั้นเป็นสิ่งตรงข้ามของความโกรธ โมโห กระวนกระวาย และความกังวล ในบทความนี้จะขอยกตัวอย่างวิธีระงับความโกรธและฝึกใจให้สงบ เช่น

การสวดมนต์ นั่งสมาธิ

การสวดมนต์นั้นจะทำให้จิตใจของเราจดจ่อกับบทสวดมนต์ ไม่ว่อกแว่กไปสนใจในเรื่องอื่น

การนั่งสมาธิช่วยให้จิตใจของเราสงบนิ่ง กำหนดลมหายใจเข้าออก ทำให้เรารู้ตัวอยู่ตลอดเวลา นอกจากนั้นยังช่วยลดความเครียด และทำให้เราเป็นคนใจเย็น อ่อนโยน และมองโลกในแง่ดีมากขึ้น

การออกไปทำกิจการที่ชอบ

การได้ทำกิจกรรมที่เราชื่นชอบก็เป็นวิธีที่ทำให้จิตใจของเราสงบได้เช่นเดียวกัน การไปเดินเล่นในสวนสาธารณะ การเต้น การร้องเพลง ก็ช่วยให้เราได้ปลดปล่อยอารมณ์โกธรได้เป็นอย่างดี

การสื่อสารพูดคุย

การเปิดอกพูดคุยก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถระงับอารมณ์โกรธได้ การระบายความในใจให้ผู้อื่นได้รับฟังและแสดงความคิดเห็น หากเป็นเรื่องที่เราผิดจริง ๆ ก็ควรลดทิฐิของเราลง และกล่าวขอโทษอีกฝ่าย

การฝึกใจให้สงบของแต่ละคนนั้นย่อมไม่เหมือนกัน ไม่มีใครผิดหรือถูก แล้วแต่ความสบายใจและการนำมาประยุกต์ใช้ของแต่ละคน

เรื่องน่ารู้ของการใช้ความรุนแรงในครอบครัว 2565

family bad

ปัจจุบันมีข่าวสารเกี่ยวกับการใช้ความรุนแรงในครอบครัวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้คำพูดตำหนิด่าทออย่างรุนแรง การใช้กำลังทำร้ายร่างกาย การใช้อาวุธ หรือแม้แต่การฆาตกรรมสมาชิกในครอบครัวด้วยตัวเองหรือจ้างวานทำ อันเกิดจากการขัดแย้งไม่พึงพอใจกันในด้านต่าง ๆ ในทางการแพทย์นั้น กรมสุขภาพจิตได้วิเคราะห์ว่าปัญหาความรุนแรงในครอบครัวเกิดจากสาเหตุต่าง ๆ

ความผิดปกติในสมอง

สมองของเราหากทำงานอย่างสมดุลจะไม่มีภาวะป่วยเป็นจิตเวช แต่เมื่อมีการเสพยาเสพติดหรือมีภาวะอารมณ์เก็บกดต่อเนื่องยาวนาน จะเกิดการผิดปกติของสารสื่อประสาทหรือสารเคมีในสมอง แล้วส่งผลให้คนเราใช้ความรุนแรงเหนือเหตุผลและขาดการยับยั้งชั่งใจใด ๆ ทั้งสิ้น หรืออาจมาจากการผิดหวังในการลงทุน เชียร์บอลตามแนวทางทีเด็ดบอลสเต็ปจากหลายเว็บแล้วผลไม่เป็นตามที่คาด

ความสัมพันธ์ในครอบครัวที่เปราะบาง

ในอดีตนั้นปู่ย่าตายายจนถึงลูกหลานจะอยู่รวมกันเป็นครอบครัวใหญ่ ช่วยเหลือกันดูแลกันเป็นอย่างดี แต่ปัจจุบันคนไทยนิยมแยกตัวกันเป็นครอบครัวเดี่ยวและมีปัญหาการหย่าร้างเป็นจำนวนมาก ความสัมพันธ์ในครอบครัวจึงเปราะบางลงไปประกอบกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันที่พ่อแม่จำเป็นต้องทุ่มเทกับการทำงานอย่างหนักเพื่อหาเงินมาให้เพียงพอต่อค่าครองชีพที่แพงขึ้นเรื่อย ๆ จึงทำให้ไม่มีเวลาพูดคุยกัน เมื่อมีความไม่เข้าใจกันก็นำมาซึ่งการทะเลาะเบาะแว้งและใช้กำลังในที่สุด

วิธีการป้องกันความรุนแรงในครอบครัว มีดังนี้

  1. ทำความเข้าใจในความแตกต่าง – ต้องยอมรับว่าอุปนิสัยของแต่ละคนไม่เหมือนกัน หากทำความเข้าใจกันได้ ก็มีแนวโน้มเปิดใจพูดคุยกันอย่างสุภาพได้โดยไม่ใช้อารมณ์ จะไม่เกิดการบังคับกันให้สมาชิกในครอบครัวคิดและทำเหมือนกัน
  2. มีกติการ่วมกันว่าจะไม่ใช้ความรุนแรง – การมีกติการ่วมกันว่าจะไม่พูดคำหยาบหรือตะโกนใส่กันเมื่อไม่พอใจกัน และจะคุยกันด้วยเหตุผลในช่วงที่อารมณ์เย็นลงเมื่อมีความขัดแย้งเกิดขึ้น เทคนิคนี้เป็นสิ่งที่ดีเหมาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวที่มีลูกหลานวัยเด็กที่จะมองผู้ใหญ่เป็นแบบอย่าง และทำให้โอกาสขัดแย้งบานปลายน้อยลงด้วย
  3. ผู้ใหญ่ต้องเป็นแบบอย่างที่ดี – มีการศึกษาพบว่าเด็กจำนวนมากเสพยา ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ฯลฯ ตามผู้ใหญ่ในบ้าน หากต้องการตัดต้นตอปัญหาก็ต้องเริ่มจากผู้ใหญ่ในบ้านที่ไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งเหล่านี้
  4. ปรึกษาจิตแพทย์ – หากมีใครในครอบครัวมีแนวโน้มใช้ความรุนแรง ควรรีบพาไปปรึกษาจิตแพทย์ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อการใช้วิธีบำบัดด้วยการพูดคุยให้คำปรึกษา และหากมีอาการมากก็ต้องใช้ยาร่วมด้วย

ความเข้าใจกัน ดูแลเอาใจใส่กันในครอบครัวอย่างแท้จริง เป็นเหมือนภูมิคุ้มกันที่ช่วยให้ทุกคนในบ้านปรองดองกัน ลดความขัดแย้งที่อาจรุนแรงได้ ถ้าเป็นไปได้ควรจัดเวลาเดือนละ 1-2 ครั้งในการทำกิจกรรมร่วมกันทั้งครอบครัว เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีและเสริมสามัคคีในครอบครัว

แอปพลิเคชันทำรูปและคำคมที่น่าสนใจมีอะไรบ้าง

แอปพลิเคชันทำรูปและคำคมที่น่าสนใจมีอะไรบ้าง

แอปพลิเคชันทำรูปและคำคมที่น่าสนใจมีอะไรบ้าง

การทำคำคมประกอบรูปภาพ เพื่อส่งไปให้ผู้อื่นทางไลน์ เพื่อสร้างความบันเทิงและส่งมอบกำลังใจให้ผู้รับ หรือโพสต์บนเพจตัวเองเพื่อเสริมสร้างกำลังใจและรอยยิ้มในแต่ละวัน เป็นการประชาสัมพันธ์แบรนด์และเสริมภาพลักษณ์ที่ดีทางการตลาดที่ได้รับความนิยมมากขึ้น

วิธีการทำคำคมบนรูปภาพแบบง่ายๆ สามารถทำผ่านแอปพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือได้อยู่หลากหลายวิธี จะมีแอปพลิเคชันอะไรบ้างมาดูพร้อมกันเลย

1. Text Camera

สำหรับคนที่เป็นมือใหม่ ต้องการตัวช่วยทำคำคมที่ใช้งานง่ายและสะดวกขอแนะนำตัวนี้ เพราะเป็นแอปพลิเคชันที่ตอบโจทย์การใช้งานพื้นฐาน เมื่อคุณแต่งคำคมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เลือกรูปภาพที่คุณถ่ายเอง หรือรูปภาพที่คุณดาวน์โหลดฟรีมาประกอบกันให้เข้ากับคำคมได้ โดยมีฟังก์ชั่นให้เลือกปรับขนาดและฟอนต์ตัวอักษรเล็กใหญ่ได้ตามชอบ ปรับโทนสีให้สวยงามยิ่งขึ้นอย่างที่ต้องการได้ทุกรูปแบบ

2. Photo Editor

เหมาะกับการส่งคำคมให้กลุ่มเพื่อนสไตล์คนรุ่นใหม่ ที่ต้องการความโดดเด่น เพราะมีฟ้อนต์ตัวอักษรให้เลือกมากมาย และยังมีฟังก์ชั่นที่ปรับแต่งภาพเหมือนมืออาชีพ จะซูมเฉพาะจุดหรือโฟกัสภาพเพื่อที่จะนำช็อตเล็ก ๆ มาทำเป็นคำคมที่ดึงดูดใจก็ได้ เช่น กองขยะที่อยู่บนท้องถนน คุณสามารถนำมาเขียนแคปชั่นคำคม เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกในการเห็นปัญหาขยะลดภาวะโลกร้อนได้ การปรับโทนสีให้สดใส ภาพหม่น หรือทำเป็นสีคลาสสิกขาวดำ ลายเส้นสีเทาก็ได้เช่นกัน

3. Rhonna Designs

เป็นแอปพลิเคชันที่กำลังได้รับความนิยม เพราะช่วยเปลี่ยนภาพธรรมดาเปลี่ยนภาพและตัวอักษรธรรมดาให้มีความวิจิตรบรรจงอย่างมาก เป็นที่ถูกใจสำหรับผู้หญิง เพราะคำคมจะมีโทนของความอบอุ่น เหมาะแก่การให้กำลังใจ ผู้รับที่ชอบอ่านคำคมและดูภาพในโทนสีแนวพาสเทลอ่อนหวาน จะรู้สึกดียิ่งขึ้นกับการส่งมอบกำลังใจผ่านตัวอักษร ซึ่งสามารถเพิ่มเติมคำพิเศษ เช่น สุขสันต์วันเกิด วันครบรอบ เพื่อโอกาสพิเศษได้ด้วย

4. AfterText

คนที่ชอบคิดคำคมแหวกแนวตลก ๆ และออกแบบภาพแนวอาร์ต ๆ จะต้องชอบแอปพลิเคชันนี้ เพราะช่วยแต่งภาพและปรับฟ้อนต์ที่ไม่ซ้ำใคร สามารถนำภาพ artwork ไม่จำกัดรูปทรง จะใส่ลายการ์ตูนที่วาดเองหรือดาวน์โหลดมาตัดต่อปะเพิ่มก็ทำได้อย่างอิสระ ไม่ต้องกลัวว่าภาพของคุณจะน่าเบื่ออีกต่อไป

คำคมเป็นสิ่งที่ช่วยให้กำลังใจและทำให้เกิดไอเดียดี ๆ ในการปรับใช้กับชีวิตประจำวัน เมื่อได้คู่กับภาพดี ๆ ก็จะยิ่งเพิ่มการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น หากคุณอยากลองทำคำคมและภาพของตัวเองที่ไม่ซ้ำใคร ลองดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่เราแนะนำไปใช้กัน หวังว่าคุณจะชอบเหมือนอย่างที่คนอีกมากมายได้ดาวน์โหลดใช้กันแล้ว

วิธีการทำคำคมบนรูปภาพแบบง่ายๆ

เรื่องเล่าความรัก ผ่านกลีบกุหลาบ

กุหลาบ กับ ความรัก

กุหลาบเป็นดอกไม้ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความรักมานานหลายร้อยปี ทั้งมีตำนานเล่าขานเกี่ยวกับกุหลาบมากมาย ไม่เพียงแต่ในประเทศไทยแต่มีความเป็นสากลทั้งเรื่องราวความรักระหว่างเทพเจ้าและมนุษย์ในสมัยโบราณที่มีมนต์ขลังทำให้กุหลาบกลายเป็น “สัญลักษณ์” แห่งความรักตราบจนปัจจุบัน

ดังเช่น เรื่องราวความรักของวีนัส หรือเทพธิดาแห่งความงามที่ครั้งหนึ่งได้ตกหลุมรักมนุษย์หนุ่มรูปงาม นามว่า อะโดนิส ซึ่งในวันที่อะโดนิสถูกหมูป่าใช้เขี้ยวขวิดจนตายนั้น วีนัสร้องไห้ด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้ง จนน้ำตาที่ไหลผสมกับกองเลือดของอะโดนิส ไหลรินลงดินและกลับปรากฎเป็นดอกกุหลาบสีแดงขึ้นมา

นอกจากนี้ ยังมีตำนานแห่ง คลีโอพัตรา ซึ่งมีการเล่าลือว่าเป็นผู้หญิงที่มีความงามและเสน่ห์อย่างมาก เปรียบได้ดังดอกกุหลาบแดง มีเรื่องเล่าว่านางใช้น้ำกุหลาบบำรุงผิวและทำให้กลิ่นติดตัวเป็นดั่งน้ำหอมที่ไม่มีใครสามารถทำได้ คลีโอพัตรายังใช้ดอกกุหลาบแดงในการแสดงความรักต่อคนรัก คือ มาร์ค แอนโทนี หลังกลับจากสู้รบด้วยการโรยห้องด้วยกลีบกุหลาบหนาถึง 18 นิ้วทีเดียว

มัทนะพาธา

พระราชนิพนธ์ ที่มีการกล่าวถึงดอกกุหลาบ

ส่วนเรื่องเล่าเกี่ยวกับความรักผ่านกลีบกุหลาบของไทย ปรากฏในพระราชนิพนธ์เรื่อง “มัทนะพาธา” ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6) ที่ทรงแต่งไว้ว่า ครั้งหนึ่งมีพระราชาเมืองหนึ่ง หลงรักเจ้าหญิงชื่อ มัทนา แต่ส่งทูตไปสู่ขอจากบิดาของนาง (ซึ่งเป็นพระราชาของอีกเมือง) ไม่สำเร็จ จึงเกิดการสู้รบกัน แต่สุดท้ายมัทนาก็ยอมตายก่อนแต่งงาน จนไปเกิดเป็นนางฟ้า ซึ่งพระราชาที่หลงรักก็ได้ตายตามมาเป็นเป็นเทวดาและพบกันอีกบนสวรรค์

ซึ่งนางฟ้ามัทนาก็ยังไม่มีความรักให้เทวดาเหมือนเดิม จนเทวดาโกรธและสาบให้มัทนาไปเกิดเป็นดอกกุหลาบป่าในโลกมนุษย์และให้แปลงกายเป็นมนุษย์ได้เฉพาะคืนวันเพ็ญ 24 ชั่วโมงเท่านั้น จนกว่ามัทนาจะพบรักแท้จึงจะพ้นคำสาป หรือหากนางได้สัมผัสกับ “ความทุกข์ในรัก” แล้วมาอ้อนวอนต่อเทวดา จึงจะยกโทษให้

หลังจากนั้นไม่นาน มัทนาก็ได้ตกหลุมรักกับพระราชาที่มาเดินป่า โดยไม่ทราบว่ามีพระราชินีเป็นคู่ครองอยู่แล้ว พระราชาได้พามัทนากลับไปอยู่ในเมืองด้วย แต่สุดท้ายก็ถูกใส่ร้ายว่ามีชู้และถูกสั่งประหารชีวิต แต่โชคดีรอดชีวิตมาได้ … มัทนาก็ได้ไปอ้อนวอนต่อเทวดาที่สาปให้นางเป็นกุหลาบ ซึ่งเทวดาก็ได้ขอให้นางรับรักจากตนอีกครั้ง แต่มัทนายืนกราบปฏิเสธ เทวดาจึงโกรธและสาปให้มัทนากลายเป็นดอกกุหลาบตลอดไป เป็นพระราชนิพนธ์ฯ ของในหลวง รัชกาลที่ 6 ที่แม้จะจบลงด้วยความเศร้าสลดใจ แต่ก็ทำให้คนไทยได้ซาบซึ้งในพระอัจฉริยภาพและถือได้ว่าทรงเป็น “ครู” แห่งบทกวีและบทกลอนที่คนไทยควรศึกษาและรักในภาษาไทยมากยิ่งขึ้น

ปัจจุบัน กุหลาบยังทำหน้าที่แทนคำพูด สื่อถึงความรักที่ซื่อสัตย์และจริงใจได้อย่างดีที่สุด เวลาเข้าเว็บเกี่ยวกับความรัก จะต้องเจอดอกกุหลาบประดับ เป็นเหมือนสโลแกนเว็บ เช่นเดียวกับการเข้าเว็บเช็คผลบอลเมื่อคืนจะต้องมีสนามฟุตบอลมาประดับอยู่ และแม้เวลาจะผ่านไป การมอบกุหลาบให้กัน ยังเป็นวิธีแสดงความรักที่เป็นสากล และอาจมีเรื่องเล่าความรักผ่านกุหลาบเรื่องใหม่ ๆ ต่อไปไม่รู้จบในอนาคตเช่นกัน

วันของดอกกุหลาบ

โกหกสีขาวจำเป็นหรือไม่ ? บอกความจริงดีกว่าไหม…

โกหกสีขาวจำเป็นหรือไม่ บอกความจริงดีกว่าไหม

ถ้าคุณมองอย่างตั้งใจ คุณจะสังเกตเห็นพลังที่เป็นแรงบันดาลใจอยู่รอบตัว แรงบันดาลใจจากดวงอาทิตย์ขึ้นจากทะเลสาบอันเงียบสงบในคืนฤดูร้อนที่อบอุ่น แรงบันดาลใจจากหนังสือที่เราชื่นชอบที่เป็นเงาสะท้อนชีวิตของเราเอง แรงบันดาลใจจากสถานที่และสิ่งต่าง ๆ เรามีโอกาสสัมผัสพลังดีๆ อย่างนี้ได้ทุกวัน คำคมเป็นส่วนหนึ่งที่ให้แรงบันดาลใจแก่ความคิดหรือการกระทำสิ่งที่ดี มีคำพูดน่าคิดของ Teresa Carpenter นักเขียนรางวัลพูลิตเซอร์ กล่าวเอาไว้ว่า “ความจริงทำให้คนโกรธได้มากกว่าการโกหก แต่บอกความจริงไปดีกว่า” หมายความว่าอย่างไร

คำพูดนี้น่าสนใจและค่อนข้างเหมาะสมกับการนำมาวิเคราะห์สังคมนี้ที่เต็มไปด้วยคำเท็จเพื่อหลบเลี่ยงความจริงที่มักจะไม่น่าฟัง แต่คือเรื่องจริง ผู้หญิงสวมชุดใหม่ที่ซื้อมาเล็กกว่าไซส์จริงของเธอ แล้วถามเพื่อนๆ ว่าสวมแล้วดูดีไหม จะตอบว่าไม่เหมาะกับเธอเลยก็ไม่กล้าพูดออกไป ได้แต่โกหกน้ำขุ่นๆ ให้เพื่อนสบายใจ ไม่ว่าจะโกหกอย่างไร เราก็ปิดบังความจริงไม่ได้ เพื่อนสวมที่รัดแน่นเกินออกไปพบผู้คนข้างนอก เกิดชุดปริ ซิปแตกขึ้น อับอายขายหน้า การบอกความจริงอาจเป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ รู้ว่าจะรับไม่ได้ เพื่อนอาจโกรธชั่วขณะหนึ่ง แต่อย่างน้อยความจริงก็ยังดีกว่าทำให้เพื่อนไปหน้าแตกกลางสาธารณชน

การพูดไม่จริง โดยอ้างนู่นนี่ ถือว่าไม่ถูกต้อง

ดังนั้น เรามีทางเลือกจะปิดบังความจริงหรือทำในสิ่งที่ถูกต้อง คำพูดนี้โยงไปถึงอีกคำกล่าวหนึ่งคือ “ความจริงสีดำ โกหกสีขาว” เราต้องโกหกเพื่อรักษาความรู้สึกของคนอื่น อ้างความชอบที่จะพูดเท็จ ว่าทำไปเพื่อจะไม่ให้กระทบกระเทือนความรู้สึก ทำไปเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของผู้อื่น อ้างว่าทำไปเพื่อปกป้องชาติบ้านเมือง ที่จริงก็เป็นการหาทางรอดของตัวเอง ปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง ไม่อยากเกิดปัญหาเมื่อพูดความจริงออกไปแล้วไม่ถูกใจคนอื่น กลัวสูญเสียความสัมพันธ์ กลัวเสียโอกาสทางธุรกิจหรือแม้กระทั่งงานของตน ทำไมการพูดความจริงเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะคำพูดปดมดเท็จไม่ช่วยให้หนีพ้นจากปัญหา หากรู้ความจริงตั้งแต่แรก จะคิดหาทางได้ในที่สุด ส่วนคำโกหกที่อ้างว่าเพื่อปกป้องความรู้สึกนั้น ลองคิดถึงเวลาที่เพื่อนรู้ว่าคุณพูดปด เขาจะรู้สึกอย่างไร ถ้าไม่ต้องการให้มิตรภาพของคุณสิ้นสุดลง บอกความจริงไปเลย แม้ว่าจะเป็นความเจ็บปวดก็ตาม

คุณจะเลือกทางไหน “พูดความจริงหรือโกหก” บอกความจริงไปแล้วความเจ็บปวด พูดโกหกง่ายเอาตัวรอดดีกว่า แต่ในที่สุดความจริงก็จะเผยออกมาวันใดวันหนึ่ง ผลของการไม่บอกความจริงในตอนแรกอาจเลวร้ายยิ่งกว่า ถามตัวเองดูว่าคุณรู้สึกอย่างไรที่เก็บวามลับไว้ตลอดเวลา คนอื่น ๆ ที่สาบานว่าจะเก็บความลับด้วยกันจะเก็บความลับอยู่หรือเปล่า ความรู้สึกผิดครอบงำจิตใจเสมอ ดังนั้นการโกหกเพื่อปลอบใจไม่ทำให้เกิดผลดีต่อชีวิตใครเลย บอกความจริงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เชื่อเถอะว่าเราควรจะพยายาม

คำคมจากโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐคนปัจจุบัน

โดนัลด์ ทรัมป์

โดนัลด์ ทรัมป์

โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ผู้นำสหรัฐฯ คนปัจจุบันผู้นี้เคยเป็นพนักงานขายมาเกือบครึ่งศตวรรษ ตอนนี้เขากำลังขายตัวเอง มีมุมมองโลกในแบบฉบับของเขาเอง ภาษาและการสื่อสารของเขาก็มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครจริง ๆ วันนี้ขอถ่ายทอดคำพูดและความคิดของทรัมป์มาพอสังเขปเพื่อสะท้อนมุมมองของคนที่ประสบความสำเร็จทางธุรกิจ เพราะสัญชาติญาณการต่อสู้ที่เข้มแข็งทำให้ทะยานขึ้นมาเป็นเศรษฐกิจรวยระดับโลก เข้าวงการไหนแจ้งเกิดที่นั่น แม้แต่ในแวดวงการเมืองยังเข้ามายืนอยู่ตรงจุดสูงสุดได้ ทั้งที่ทรัมป์แสดงท่าทีคุมคาม มีการเรียกร้องอย่างอุกอาจรุนแรง ทั้งยังโกหกผู้คนนับล้านในสื่อข่าว , สื่อโซเชียลมีเดียและทำซ้ำอย่างสม่ำเสมอ

หลายคนกล่าวหาว่าทรัมป์เป็นภัยคุกคามระบอบประชาธิปไตยและสอบตกในเรื่องจริยธรรม เมื่อเข้ามาเล่นการเมือง มุ่งแสวงหาประโยชน์เพื่อพวกพ้อง สร้างกระแสประชานิยมด้วย

ดูเหมือนเป็น 2 ทางที่แปลกแยก มุมหนึ่งเขาถูกตำหนิ ถูกกล่าวหาอย่างรุนแรงเกี่ยวกับพฤติกรรมของเขา แต่อีกมุมหนึ่งเขากลับถูกเลือกให้เข้ามาเป็นผู้นำสหรัฐฯ อะไรที่ส่งให้เขาประสบความสำเร็จได้อย่างทุกวันนี้ ไปดูความคิดของเขาที่ออกมาเป็นคำคมที่สะท้อนความเป็นตัวตนของเขาผู้นี้กันจากคำคมของเขา

ในเมื่อคุณต้องคิดทำอะไรสักอย่าง ควรคิดทำการใหญ่ไปเลย

อยากรวย อยากเป็นใหญ่ ต้องก้าวไปข้างหน้า ตั้งเป้าหมายให้สูงและวางแผนไปให้ถึงจุดหมายความสำเร็จ อย่านั่งเฉยและหวังว่าจะมีใครยื่นมือมาช่วยผลักดัน มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เปลี่ยนทัศนคติใหม่ แล้วคุณจะประสบความสำเร็จสมปรารถนา”

สิ่งที่แยกผู้ชนะออกจากผู้แพ้คือการตอบสนองต่อโชคชะตาที่เล่นตลกกับเราในบางครั้ง ผมพยายามจะเรียนรู้จากอดีต แต่วางแผนสำหรับอนาคตไว้ล่วงหน้าโดยมุ่งเน้นความสำคัญเฉพาะในปัจจุบัน ความสนุกอยู่ตรงนี้
อย่าหวาดกลัว ถ้าคุณกลัวและเริ่มเดินลัดเลาะออกจากทางหลักเพื่อไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ในท้ายที่สุดทางเลี่ยงนั่นแหละจะฆ่าคุณ ดู ฟังและเรียนรู้ คุณไม่สามารถรู้ทั้งหมดได้ด้วยเอง คนที่คิดว่าพวกเขารู้ทุกเรื่อง จะไม่ได้เรียนรู้อะไรเลย รูรั่วนิดเดียว อาจจมเรือได้

โชคดีไม่ได้มาบ่อย ๆ เมื่อใดที่โชคเข้าข้างเรา ต้องใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่า แม้ว่าจะต้องทำงานหนัก ไม่ใช่เวลาจะมาเหนียมอายหรือมักน้อย ต้องพยายามสุดกำลังเพราะถึงเวลาที่จะก้าวไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่จะทำได้ นั่นคือความหมายที่แท้จริงของการคิดใหญ่

หลายคนเข้าใจว่าทรัมป์ประสบความสำเร็จมาโดยตลอด แต่ความจริงเขาเคยเป็นหนี้ท่วมหัวมากกว่าเป็นหลักแสนล้านบาทเมื่อกว่า 30 ปีมาแล้ว ทรัมป์บอกว่าจะชนะสงครามได้ บางครั้งก็ต้องแพ้บ้าง เป็นเรื่องธรรมดา ไม่ว่าจะล้มเหลวกี่ครั้งเขาจะลุกขึ้นสู้ทุกครั้ง แม้ว่าคนมากมายมองว่าทรัมป์เป็นคนโกง แต่ฟังจากคำคมของเขาแล้วจะมองให้เชิงบวกมากขึ้น เห็นเหตุผลว่าทำไมเขาจึงมายืนอยู่ตรงจุดสูงสุดของประเทศ ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยของดินแดนแห่งเสรีภาพ เพราะด้านหนึ่งเขาพยายามปรับปรุงชีวิตให้ดีขึ้น คำพูดของเขาทำให้คนรู้สึกว่ายังมีความหวังและมีโอกาสอยู่เสมอ เพียงแต่ว่าเราจะทำหรือไม่เท่านั้น สามารถนำแง่คิดดี ๆ และสไตล์การใช้ชีวิตของผู้นำสหรัฐสุดอื้อฉาวคนนี้มาสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ตัวเองทำชีวิตให้ดีขึ้นได้เช่นเดียวกัน

คำคมโดนัลด์ ทรัมป์